Follow us to receive the latest updates.
Twitter: https://twitter.com/SnakeDAOprojectand https://twitter.com/cappyz

The SPACE ID (SID)

ในช่วงเวลาที่ Web3.0 กำลังเริ่มแพร่หลายอย่างในปัจจุบัน ตัวนวัตกรรมในด้าน Decentralized Identity หรือบรรดาการให้บริการ name service ต่างๆ ก็เริ่มถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งผู้ใช้งานเองก็นำเอามาใช้งานบน dApps และบนระบบบล็อกเชนต่างๆ ได้จริง แน่นอนว่าด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ทำให้พวกเราคาดหวังได้ว่าการระบุตัวตนด้วยนวัตกรรม Decentralized Identity Identity อาจจะเป็นคำตอบที่จะทำให้ Identity ของเรา กลายเป็นในรูปแบบดิจิทัลโดยสมบูรณ์ เนื่องจากทุกสิ่งอย่างจะถูกยืนยันและตรวจสอบได้บนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่ทำงานบนระบบบล็อกเชน

ทำไมต้อง SPACE ID (SID)?

ถึงแม้ตัวในปัจจุบันการยืนยันตัวตน (identity) ของเราก็เริ่มถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่ว่าก็ยังมีข้อจำกัดสำคัญนั่นคือ ตัวตนตนของเราก็ยังไม่สามารถที่ข้ามไปงานบนบล็อคเชน หรือ dAPPs อื่นๆ ได้
จุดนี้เองที่ให้ SPACE ID ดูน่าสนใจเพราะว่า ตัวโปรเจคนี้ต้องการที่จะสร้าง ระบบ Name Service ที่เป็นสากล (Universal Name Service) ด้วยการใช้ Oracle เดียวในการจัดการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ด้วยการทำงานข้ามบล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน, ข้อมูล, ทรัพย์สิน หรือ แอพพลิเคชั่นต่างๆ
ซึ่งตามที่ผมเข้าใจในปัจจุบันทาง SPACE ID เองก็มีความตั้งใจที่จะสร้างระบบเอาไว้ประมาณนี้คือ

• SID: One Name for All เพียงชื่อเดียวก็สามารถใช้งานข้ามได้หลากหลายบล็อคเชน
• เนื่องจากเป็นการทำงานข้ามบล็อกเชน (Cross-chain) เราก็ไม่จำเป็นต้องไปทำยืนยันข้อมูลตัวตนของเราอีกบนบล็อคเชนอื่นๆ
• นำ Oracle chain มาใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล
  (Oracle คืออะไร: https://www.scb10x.com/blog/whatis-oracle)

ตัวอย่างการใช้งาน SID

• สมมุติว่าเราใช้ชื่อโดเมน SID ของเราว่า luke เมื่อเราตั้งสำเร็จชื่อ SID “luke” ของเราก็จะถูกใช้งานไปยังบล็อคเชนทั้งหมดที่สามาใช้งาน SPACE ID ได้
• จดทะเบียนใช้งานโดเมนระบนสุด (Top-Level Domain: TLD) เป็นการให้โปรเจค หรือ องค์กรต่างๆ สามารถเข้ามาจดทะเบียบ TLD ของตัวเองแล้วให้สมาชิกเข้ามาใช้งานจดทะเบียนเป็นโดเมนรองของตัวเองต่อได้ ยกตัวอย่าง เช่น
  1. Yuga Labs จดทะเบียน TLD เป็นของตัวเอง ว่า “Yuga:”
  2. Luke ทีเป็นสมาชิกของ Yuga Labs มาจดทะเบียนโดเมนของตัวเองต่อว่า “yuga:luke”
  3. ทีมพัฒนาของ MeebitsDAO ก็มาจดทะเบียนโดเมนตัวเองต่อว่า “yuga:meebits” ได้เช่นกันแต่ที่น่าสนใจก็คือสามารถใช้งาน Smart contract บนเชน Ethereum เพื่อสร้างโดเมนเฉพาะให้กับผู้ถือครอง NFT ของ MeebitsDAO ได้ด้วย เช่น เจ้าของ Meebits NFT#1024 ก็จะสามารถใช้งานชื่อ “yuga:meetbits/1024” ได้เช่นกัน
     (TLD คืออะไร https://www.thnic.or.th/gtldcctld/ ) SID = More than a Name

SID = More than a Name

ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานบนโลก Web3.0 มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นบน Layer 1 อย่าง Ethereum, BNB, Fantom, Polygon หรือ Layer 2 อย่าง Arbitrum ด้วยการที่มีตัวเลือกหลากหลายให้ผู้คนเข้ามาใช้งาน ทำให้ในปัจจุบัน dApp เองก็ยากที่จำกัดตัวเองอยู่บนบล็อคเชนเพียงแห่งเดียว การที่นำหลักการ Universal Name identification ก็จะสามารถช่วยให้ dApps ต่างๆ สะดวกในการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานของตัวเองมากขึ้นเพราะว่าใช้เพียง ID เดียวก็สามารถยืนยันข้ามไปได้ทุกเชน SID จึงไม่ได้เป็นแค่ชื่อโดเมนธรรมดา แต่จะเป็นตัวตนของเราบนโลก Metaverse ในอนาคต

สิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับ SPACE ID ณ ตอนนี้

1. .BNB Domain: ในช่วงเริ่มแรกของโปรเจค SID ในเวอร์ชั่นนี้จะยังคงเริ่มต้นใช้บนเชน BNB ก่อน โดยที่คิดว่าในอนาคตทางโปรเจคเองก็น่าจะเปิดให้เราเข้ามาทำการจดทะเบียน .bnb domain เป็นของตัวเองและนำไปทดลองใช้งานได้ในเชน BNB ทั้งหมด

2. Galaxy OAT (https://galaxy.eco/spaceid/campaign/GCH5sUUKRM/) เข้าร่วมได้ผ่าน https://gleam.io/gNfr7/space-id-genesis-badge-nft

3. โปรเจค SPACE ID กำลังมีให้เข้าไปโหวต Revelation Hackathon อยู่บน Dorahacks ที่ https://dorahacks.io/buidl/2743?roundProj=1901#tabs

   ข่าวสารเพิ่มเติม
   Twitter: https://twitter.com/SpaceIDProtocol

   Reference: https://medium.com/@SpaceID/introducing-space-id-your-universal-identifier-576566315d37

สนันสนุนกำลังใจด้วยการ Mint บทความนี้บน Chain Optimism ด้วยการกด Collect ด้านล่างได้เลยครับ