วันนี้เราจะมาดูโปรเจคเลเยอร์ 1 (L1) บล็อกเชนตัวใหม่กันอีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า Sui ซึ่งถูกพัฒนาโดย Mysten Labs ความพิเศษของมันก็คือมีความเร็วที่สูงมาก โดยทดสอบกับ M1 Macbook Pro ที่มี 8 core สามารถทำการส่งโทเคนได้ด้วยความเร็ว 120,000 ธุรกรรมต่อวินาที เท่านี้ยังไม่พอ Sui ยังสามารถเพิ่มความเร็วให้เร็วมากกว่านี้ได้อีกด้วยการสเกลแบบ Horizontally! รวมทั้งยังมีการใช้ Move เป็นภาษาสำหรับเขียน Smart Contract ซึ่งเป็นภาษาที่ได้รับการพัฒนาโดย Facebook เป็นเจ้าแรก ซึ่งช่วยให้ Smart Contract มีความปลอดภัยและช่วยป้องกันปัญหาอย่างพวก Reentrancy, Vulnerability, Poison Token และ Spoof Token ที่เคยสร้างความเสียหายมากมายให้แก่วงการคริปโตมาแล้ว สิ่งที่ทำให้ Sui สามารถสเกลได้ดีแบบนี้เนื่องมาจากการแยก Mempool (Data Availability ก็อยู่ในส่วนนี้) กับ Consensus แยกเป็นสองเลเยอร์ ชั้น Mempool จะใช้โมเดลที่ชื่อว่า Narwhal และชั้น Conensus คือ Tusk การแยกแบบนี้ทำให้ Narwhal นั้นยังสามารถนำไต่อกับ Consensus อื่นๆ ได้เช่น Tendermint และตอนนี้ก็กำลังดำเนินการที่จะรวมเข้ากับโปรเจคบล็อกเชนชื่อดังอย่าง Celo และ Sommelier อีกด้วย
เพื่อไม่ให้โพสต์นี้ลงไปในเทคนิคคอลจนเกินไปเราจะขอเกริ่นคร่าวๆ ถึงหลักการทำงานและการสเกลของเจ้าบล็อกเชน Sui ว่าทำได้อย่างไร และนำไปต่อยอดอะไรได้บ้าง การทำงานของบล็อกเชนทั่วๆ ไปจะนำเอาธุรกรรมมารวมๆ กันและทำ Ordering หรือจัดลำดับก่อนแล้วจึงนำมาดำเนินการ เมื่อบล็อกนั้นเต็มเราก็ต้องรอธุรกรรมของเราในบล็อกถัดๆ ไปถึงจะประมวลผลได้ แต่เนื่องจากธุรกรรมส่วนใหญ่มันไม่เกี่ยวข้องกันเลยทำไมเราถึงจะต้องมานั่งจัดลำดับแล้วรออีกหละ?
“แต่ใน Sui ข้อมูลที่ต่างกันจะถูกดำเนินการแยกกัน จึง ทำให้ธุรกรรมที่ไม่ขึ้นต่อกันไม่ต้องถูกจัดลำดับแต่สามารถดำเนินการขนานหรือ Parallel กันไปได้เลย (แต่สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Order หรือมีลำดับเข้ามาเกี่ยวข้องยังคงต้องรอตามคิวอยู่แต่ก็ยังสามารถดำเนินการคู่ขนานกันไปกับธุรกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้)”
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ทำให้ Sui สามารถสเกลได้อย่างดีเยี่ยม เท่านั้นยังไม่พอถ้าคุณยังอยากให้ Sui สามารถสเกลได้มากกว่านี้หละก็ สามารถทำได้ผ่านการสเกลแบบ Horizontal โดยให้ Validator แต่ละคนเพิ่มจำนวน Worker (หรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงาน) ได้ สิ่งนี้ทำให้การดำเนินการสามารถถูกกระจายแบบ Parallel เพิ่มขึ้นไปได้อีก (เหมือนมีคนช่วยทำงานขนานกันไปมากขึ้น) จึงทำให้ Sui ยังสามารถสเกลได้ตามจำนวน Worker ที่ Validator นั้นมีอยู่ได้อีกด้วย ยังไม่หมด! Sui เหมือนเป็นลูกผสมระหว่าง UTXO Model กับ Account Model สถานะของ Sui เหมือนเป็นแหล่งเก็บรวบรวมสถานะของ Object เอาไว้ (ตัวอย่าง Object ใน Sui คือ โทเคน, DEX, NFT etc.) โดยมีการใช้ภาษา Move และใช้รูปแบบ Object centric ช่วยให้ Object ต่างๆ ใน Sui สามารถถูกโปรแกรมได้ สามารถอัพเดท ถูกสร้าง ถูกทำลาย ได้ผ่านธุรกรรม (ทำลายใน Sui คือทำให้หายไปเลยคือถูกทำลายไปจริงๆ ไม่ใช่ถูก Burn แบบในบล็อกเชนทั่วๆ ไปที่ทำโดยส่งไปยังกระเป๋าที่ไม่สามารถใช้งานได้) ช่วยให้การใช้งานหรือทำงานร่วมกันของ Object เหล่านี้ทำได้ง่าย
มีกิจกรรมสุดพิเศษที่ชื่อว่า Knowledge bounty Series เพื่อยกระดับ Contributor ให้มี Skill ด้าน IT มากขึ้น เช่น สอนการ run node ของทุกๆโปรเจค รวมถึงอธิบายหลักการทำงานของโปรเจคที่น่าสนใจ ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
ซึ่ง Mysten Labs - Sui เราก็ได้มี Knowledge Bounty ออกมาแล้ว 2 tasks ด้วยกัน [กำลังจะมี task อื่นๆ เพิ่มเข้ามา]
1.Creating Foundational Infrastructure For Web 3.0 (ฺBeginner)
2.Testnet run + validator (เรามี Tutorial + Script ให้ทำตามได้ 100%)
สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sui ได้ที่นี่
https://docs.sui.io/learn
WebSite: www.contributiondao.com
Facebook: https://www.facebook.com/contributiondao
Discord: https://discord.gg/contributiondao
Twitter: https://twitter.com/contributedao
Telegram: https://t.me/thaitalent