เดือนนี้เป็นเดือนที่ย่ิงใหญ่สำหรับ Ethereum: บริษัทมหาชนจดทะเบียน Coinbase ได้เปิด OP chain ชื่อ Base
สำหรับ Optimism collective, การเปิดตัวนี้ เป็นมากกว่าการยืนยันเทคโนโลยีของ OPstack
Base แสดงถึง:
-
การเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระยะยาว Optimism และ SuperChain
-
การเกิดขึ้นของโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ สำหรับ Optimism Collective
-
หลักฐานว่า โมเดลธุรกิจ + open source ไปด้วยกันได้ และไม่แปลก
Optimism Collective เกิดขึ้นเพื่อทำคลายความเชื่อที่ว่า public goods ไม่สามารถกำไรได้
OP stack ใช้ MIT-licensed public good ทุกๆคนสามารถใช้และ fork ได้ตามสะดวก
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์จากการแชร์มาตรฐานร่วมกัน ทำให้ incentive ที่จะ fork กลายเป็น incentive ที่จะร่วมมือกัน
ขับเครื่องเชนต่างๆเป็น SuperChain
การแบ่ง fee เป็นมาตรฐาน Optimistic vision เริ่มจะเป็นจริงขึ้นมา
และมันสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
เรามาคุยกันเกี่ยวกับการร่วมมือกับ Base ดีกว่า นี่เป็นตัวอย่างการตั้งCollective และ อธิบายได้ว่าจะเกิดอะไรกับ Superchain ในอนาคต
Based and Aligned
การตัดสินใจของ Coinbase ที่จะร่วมสร้างและพัฒนา Base บน OP stack ก่อให้เกิดคำถามที่น่าสนใจ:
-
การนำเสนอเชนใหม่ๆ จะทำให้ balance ของ Optimism economic เปลี่ยนไปอย่างไร?
-
OP chains ต่างๆ จะบาลานซ์ ระหว่าง decentralization และ การเป็นกลางระหว่างความสนใจของแต่ละเชนเองอย่างไร?
-
เราจะคงความเป็นหนึ่งเดียวในการพัฒนา และหลีกเลี่ยงการแตกแขนงอย่างไร?
เรารู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนจาก single chain ไปเป็น superchain
แต่นี่คือการทำให้ เกิดขึ้นจริง! การเดินทางของเราร่วมกับ Base ไม่ใช่แค่การตอบคำถามนั้น แต่ยังเป็นการแสดงตัวอย่างด้วย
เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ดี เพราะเรามีพื้นฐาน 3 อย่างที่เหมือนกันกับ Base:
-
If you want to go far, go together: เพื่อมุ่งให้คริปโตเข้าถึง mass เราจะต้องไปด้วยกัน ใช้ global network ของ contributors
-
Users first. ตั้งแต่วันแรก เราก็เน้นประสบการณ์ของ users นั่นทำให้ Base เห็นด้วยกับ Law of Chains
-
Decentralization matters. เราให้ความสำคัญกับ decentralize จริงๆ Base จะให้พลัง decentralize กับ people
ตั้งมาตรฐานใหม่
มีส่วนประกอบสำคัญ 2 อย่างในความร่วมมือระหว่าง Optimism กับ Base:
-
Protocol Management: มีการตั้งกฏสำหรับการ upgrade และ sequencing OP chains ด้วยกัน
-
Economics and Governance: จะมีการแบ่ง fee ให้กับ OP collective และ มี long term token grants ให้กับ base
Protocol Management
เดือนก่อน Optimism Foundation ได้เปิดตัว Law of Chains เป็น frameสำหรับทำงานร่วมกันและการ Governance นอกจากจะดูแล OP Mainnet อย่างเดียว OP token ยังใช้ supervise OP chains อื่นๆ รวมถึง Base ด้วย
ในขณะนี้ Base upgrade authority แชร์ 2/2 multisig ระหว่าง Optimism กับ Base
Multisig นี้จะใช้ในเหตุการฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งจะมีการใช้งานอัพเกรดตามการตัดสินใจของ Optimism Governance
นั่นหมายความว่า วันนี้ ตั้งแต่ก่อนจะมีการใช้ Law of Chains, Base และ OP Mainnet จะมี upgrades ร่วมกัน ดังนั้น blockspaces ของแต่ละเชนจะมีความเข้ากันได้ เป็นหนึ่งเดียว และ นำไปสู่ Superchain ในอนาคต
การอัพเกรดจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ Optimism Governance
อนาคต Law of Chains ก็จะได้มีการอนุมัติจากหลายๆเชน ทั้ง Base ,OP mainnet และ OP chains อื่นๆด้วย ซึ่งจะค่อยๆปรับเปลี่ยนไปต้นปี 2024
Economics and Governance
การร่วมมือระหว่าง Optimism และ Base ออกแบบโดยมีพื้นฐานจากความ เสมอภาค ยั่งยืน และเติบโตไปด้วยกัน เป็น long term comitment ดังนี้:
-
Fee split: Transaction fee จาก Base จะแบ่งถูกแบ่ง และส่งให้ Collective ผ่าน onchain contract
-
ขึ้นอยู่กับว่าอะไรเยอะกว่า ไม่ a ก็ b จะถูกส่งให้กับ OP collective
-
(a) 2.5% of Base's total sequencer revenue
-
(b) 15% of Base’s net onchain sequencer revenue (L2 transaction revenue minus L1 data submission costs)
-
เรามีวิสัยทัศน์ว่า โครงสร้าง fee นี้จะถูกนำไปใช้กับ Superchain members ทั้งหมด
-
-
Token Grant: เพื่อให้การเป็นพันธมิตรแข็งแรงขึ้น OP foundation จะส่งมอบ 118m OP ให้กับ Base ตลอดระยะเวลา 6 ปี นับจากนี้ โดย OP เหล่านี้จะมี capใช้พลังโหวตได้ไม่เกิน 9% ของ votable supply. Grant นี้เป็นการตอบแทน retroactive สำหรับความร่วมมือที่ผ่านมากับ Base
สรุป
การร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่การทดลอง แต่เป็น techical strength ของ OP stack
อนาคตของ Superchain ไม่ใช่แค่โค้ดหรือ เศรษฐศาสตร์ แต่เป็นผู้คน, contributors, organizations ที่อยู่เบื้องหลัง ขอขอบคุณ Jesse Pollak, Rowan Stone, Brian Armstrong, Base และ Coinbase teams
Superchain จะนำ global onchain movement และมีอนาคตที่แจ่มๆรออยู่
Stay Optimistic. 🔴🔵🟠🟢🪩🟡🟣⚪🟤✨
ref