สวัสดีครับผู้อ่านทุกๆท่าน
หากท่านกำลังสนใจงาน Contribute ในฝั่ง Modular/L2 Blockchain ผมมีอีกหนึ่งโปรเจคที่ผมสนใจ โดยโปรเจคนี้ได้นำเสนอ concept ของ zkSharding ซึ่งเป็นหนึ่งในว่าที่เทคนิคที่จะมาแก้ไขปัญหา Blockchain Trilemma ได้ โปรเจคนั้นมีชื่อว่า =nil; ครับ
หมายเหตุ: ไม่ใช่คำแนะนำเพื่อการลงทุน #NFA
=nil; L2 เป็นเชน Ethereum L2 จาก =nil; Foundation โดยใช้เทคนิค zkSharding สำหรับการสร้าง L2 ทำให้ =nil; มีคุณสมบัติหลักสามประการคือ
Horizontal Scalability: ผ่านการ partition state ข้าม shards ต่างๆด้วย cross-shard communications
Modularity: ผ่านการที่ =nil; เป็น execution layer
Verifiable Security: ที่สามารถถูก verified ผ่าน single zero-knowledge proof ที่ยืนยันถึงความถูกต้องของ shards ทั้งหมด
ซึ่งการใช้ zkSharding ทำให้ =nil; ก้าวข้ามเรื่องของ monolithic/modular สามารถ scale ได้เหนือข้อจำกัดของ single machine's processing power นอกจากนั้นทาง =nil; Foundation ยังมีอีกสามผลิตภัณฑ์หลักได้แก่
zzLLVM: compiler ที่เปลี่ยน code ภาษา C++, Rust ลงไปที่ circuits เพื่อที่จะถูกใช้ใน zk-SNARK, zk-STARK systems.
=nil; Prove Market: marketplace ที่ทุกคนสามารถขอ zero-knowledge Proofs (ZKPs) ได้
Crypto3: open-source libraries สำหรับ cryptography เขียนด้วยภาษา modern C++
ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกกันต่อในส่วนของ =nil; L2 กันครับ
=nil; มี Funding เบื้องต้นอยู่ที่ 22 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ lead โดย Polychain และมี Mina, StarkWare Industries เป็นผู้ร่วมลงทุนด้วย (ที่มา)
ในปัจจุบัน =nil; อยู่ในสถานะ Devnet ซึ่ง =nil; มีกำหนดการ Testnet ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 และออก Mainnet ใน Q4 ปี 2025
zkSharding เป็นเทคนิคที่รวมการทำ sharding และ ZKPs เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ blockchain ทั้งในส่วนของ scalability, security และ decentralization
โดยการทำ sharding นั้นจะเป็นการแบ่ง network ออกเป็น partitions ต่างๆที่มีขนาดเล็กลงและมีความเป็นอิสระกัน เรียกว่า shards โดยแต่ละ shard จะทำการ processes txs อย่างเป็นอิสระและคู่ขนานกันไปด้วย ทำให้ nodes สามารถบันทึกข้อมูลและจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ shard เฉพาะเท่านั้น สำหรับการใช้ ZKP ใน zkSharding นั้นทำให้ยืนยันทั้ง txs และ state changes ได้ว่ามีความถูกต้องโดยที่ไม่ต้องให้ตัว nodes เป็นคน process ข้อมูลทั้งหมดโดยตรง ซึ่งเป็นการลดจำนวนข้อมูลที่ node ต้องจัดการ เป็นการช่วยเพิ่ม scalability โดยที่ยังคง security ของตัวเชน
นอกเหนือจากนั้น zkSharding ยังถือได้ว่าเป็น ultimate scaling technology เพราะสามารถทำ scaling ได้ทั้ง horizontal และ vertical โดยที่ไม่กระทบความ decentralization อีกทั้งการทำ zkSharding ยังนำเสนอ architecture แบบ three-tier security ซึ่งถูก designed มาเพื่อความ decentralization โดยเฉพาะ
การใช้ zkSharding ทำให้ =nil; รองรับ high-load applications ยกตัวอย่างเช่นการทำ on-chain autonomous worlds
จากบทความ “How to Contribute to the =nil; Community”
เพื่อนๆสามารถ contribute กับ =nil; ได้ผ่านวิธีการเหล่านี้
Join the conversation: พูดคุยกันใน Discord ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์หรือการพูดคุยเกี่ยวกับ tech ต่างๆ (คำใบ้: =nil; team มีความ cypherpunk-aligned)
Engage, share and amplify: อย่าลืมติดตาม =nil; Foundation และ Avi Zurlo ทีม =nil; ให้ความสำคัญกับคุณภาพของงานเป็นหลักและเชิญชวนให้ทุกๆท่านมีส่วนร่วมด้วยความรอบรู้และความใส่ใจ
Participate in our events: ผ่าน X spaces และ Discord workshops เพื่อสร้าง reputation ของคุณใน Community
Create content: สามารถเป็นได้ทั้งในรูปแบบของ X thread, บทความ article, การทำ emoji pack รวมถึงการทำ meme (อ่านคู่มือแนวทางการทำ content เพิ่มเติมได้ที่นี่)
Apply to join the Devnet Program: สำหรับเพื่อนๆ developers สามารถเข้าร่วมโปรแกรม Devnet ได้ที่นี่ เพื่อเข้าถึง early access และพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวไปกับ =nil;
=nil; เป็นหนึ่งในไม่กี่เชน L2 ที่ผมเห็นว่าเขากล้าระบุเลยว่าเทคโนโลยีของตน (zkSharding) จะช่วยแก้ปัญหา Blockchain Trilemma ได้ ทำให้ผู้เขียนเฝ้ารอที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ในการใช้งาน Testnet ของ =nil; อย่างใจจดใจจ่ออยู่ไม่น้อย และขออวยพรให้ทีมสามารถทำเทคโนโลยี zkSharding ให้สำเร็จได้ด้วยดี
Thank you, @chanatip_field, for the consultation on zkSharding technology.