[#WenMerge คือซีรีส์คอนเทนต์สำหรับมือใหม่โดยมือใหม่ที่จะมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจ The Merge 🐼 ของอีเธอเรียม ผ่านบทสนทนาและข้อมูลจากนักพัฒนาและคนหน้างานโดยตรง มาเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเกิดการอัพเกรดซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์อีเธอเรียมและบล็อกเชนกัน! อ่าน EP 1 ได้ที่นี่]
[Disclaimer: คนเขียนก็เป็นมือใหม่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดตรงไหน แจ้งผ่าน DM ได้เลยนะคะ ✌]
ใน #WenMerge EP 1 เราได้มาเช็คระยะ The Merge กับคุณ Tim Beiko จากในพอดแคสท์ Bankless ซึ่งได้คลี่คลายประเด็น The Merge ตอนนี้เป็นอย่างไร และ #อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที ไปเรียบร้อย
ตอนเราเขียนจบก็รู้สึกเลยว่า “โอ้โห้ อีเธอเรียมและการอัพเกรด The Merge ทำไมมันช่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนได้มากมายขนาดเน้!” ข้อมูลก็เทคนิคัลมาก อีเธอเรียมเองก็ซับซ้อน ข้อมูลอัพเดทบ่อยๆ แถมยังอัพเดทกันหลายช่องทางหลายทางอีก ซึ่งให้อภัยได้เพราะอีเธอเรียมไม่ได้มีทีม PR กลางเหมือนเชนอื่นๆ [อีเธอเรียมฟาวน์เดชัน (Ethereum Foundation) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่เกิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเทคโนโลยีของอีเธอเรียม ไม่ได้มีอำนาจควบคุมอีเธอเรียม ไม่สามารถชี้นิ้วสั่งใครได้ และไม่ได้เป็นเจ้าของอีเธอเรียมอย่างที่เขาล่ำลือกัน] นั่งอ่านข้อมูลเพิ่มไป ฟังพอดแคสท์ ฟัง Core Devs Call ไป บางครั้งก็พาลชวนให้ไมเกรนขึ้น สู้แล้วแต่ Dev สู้กลับ! กด pause, play สลับกับเปิดกูเกิ้ลทุกสามนาที วนไปสิคะ! 🤯
มา EP 2 เลยอยากจะพาทุกคนกลับไปยังจุดเริ่มต้นกันใหม่ มาเท้าความและทำความเข้าใจพื้นฐานภาพรวมเกี่ยวกับ The Merge กันก่อน ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี เดชะบุญที่ SSV Network ได้จัดซีรีส์พอดแคสท์จำนวน 8 ตอนที่พูดถึง The Merge ฟัง EP แรกไปรู้สึกว่าดีงามมาก ข้อมูลพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับคอนเทนต์ The Merge Starter Guide ที่อยากจะเขียนในตอนนี้ ถ้าใครมีเวลา เราอยากชวนไปฟังพอดแคสท์ฉบับเต็มเลย พอดแคสท์ซีรีส์นี้ได้ชวนคุณแอนโทนี ซาสซาโน่ (Anthony Sassano) จาก The Daily Gwei มาเป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจอีเธอเรียมลึกและข้อมูลเป๊ะมาก มากับแขกรับเชิญพิเศษคือคุณทิม เบโค่ (Tim Beiko) จากอีเธอเรียมฟาวน์เดชัน (Ethereum Foundation - มูลนิธิอีเธอเรียม] คนดีคนเดิมมาเจาะลึกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ The Merge และการพัฒนาระบบอีเธอเรียม นอกจากข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ The Merge แล้ว พอดแคสท์ตอนนี้ยังช่วยทำให้เห็นถึงหลักการและเหตุผลในการพัฒนาเครือข่ายอีเธอเรียม และทำให้ว่าการตัดสินใจเลือกทำและไม่เลือกทำอะไรในอีเธอเรียมที่อาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์แต่ก็ได้ผ่านการทดลองและคิดมาเช่นกัน EP นี้เราจะขอข้ามเรื่องสิ่งที่คนเข้าใจผิดบ่อยๆ เพราะพูดถึงไปแล้วใน Bankless ค่ะ
ถ้าใครที่ได้อ่านบทความ EP. 1 ของเรามาแล้ว เราคิดว่า EP นี้จะทำให้ข้อมูลจาก EP. 1 กลมมากขึ้น และช่วยทำให้เห็นที่มาที่ไปได้มากขึ้น สำหรับใครที่มาเริ่มอ่านจาก EP นี้เลย ก็ไม่ต้องกังวล เริ่มจาก EP นี้ก่อนได้เลย แล้วค่อยไปเก็บดีเทลโร้ดแมปของ The Merge ใน EP. 1 ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจข่าวและอัพเดทต่างๆ ของ The Merge หลังจากนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ ✌
[รอบนี้ลองทำสรุปเป็นภาษาไทยด้วยเผื่อใครถนัดอ่านภาษาไทยมากกว่า]
ก่อนจะเริ่มพูดถึงตัว The Merge อยากขอแนะนำคุณทิม เบโค่ ผู้เล่นคนสำคัญที่เราจะต้องเจอเขาอีกบ่อยๆ
ถ้าเป็นทีมฟุตบอล ตำแหน่งของคุณทิมก็น่าจะเปรียบได้กับกองกลางที่คอยช่วยเหลือและประสานงานทีมต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครือข่ายอีเธอเรียม ไม่ว่าจะเป็นทีมนักวิจัย, ทีมนักพัฒนาไคลเอนต์ ทั้งจากฝั่ง Consensus Layer และ Execution Layer, ทีมนักพัฒนาแอป, หรือจะเป็นฝั่งสเต็กเกอร์ (staker), วาลิเดเตอร์ (validator) และโหนด (node) เอง คุณทิมเป็นนักพัฒนาที่ย่างเท้าเข้ามาในโลกอีเธอเรียม ผ่านตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ไคลเอนท์ (software client) ตัวหนึ่งในบริษัท Consensys ซึ่งเป็นที่มาให้เขาเริ่มเขียนสรุปการประชุม Core Devs Call ลงทวิตเตอร์
หน้าที่หลักๆ ของเขามีอยู่สามสี่อย่าง นั่นก็คือ:
[Fun Fact: ในอีเธอเรียมฟาวน์เดชันมีคุณ Trent Van Epps [ขอไม่ถอดเสียง เพราะไม่แน่ใจว่าชื่ออ่านว่าอย่างไร] ที่ทำหน้าที่เหมือนกับคุณทิม เบโค่ แต่กลับกันคือคุณ Trent เป็นรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากฝั่งชุมชนส่งกลับมาให้ที่ฝั่งนักพัฒนา]
อีเธอเรียมมีแผนจะย้ายจากระบบ PoW มาใช้ระบบ PoS ตั้งแต่ช่วงต้นของโปรเจ็กต์แล้ว แต่กระบวนการย้าย (การวิจัยและทดลอง > การออกแบบ > การลงมือโค้ด > ทดลอง) ใช้เวลานานกว่าที่คิดไปมาก
การออกแบบระบบ PoS เริ่มลงตัวในช่วงปี 2019-2020 แต่ในช่วงเวลานั้นก็เริ่มมีกิจกรรมเกิดขึ้นบนอีเธอเรียมเยอะมากแล้ว ซึ่งจะเสี่ยงมากหากจะทำการย้ายระบบกันโดยไม่ได้ทดสอบระบบกันให้ดีก่อน ทีมนักพัฒนาจึงตัดสินใจพัฒนา Consensus Layer (PoS) เป็นเชนแยกออกเป็นก่อนโดยมีชื่อเรียกว่า Beacon Chain ซึ่งในปัจจุบันมีคนนำอีเธอร์ไป stake เอาไว้เพื่อเป็นวาลิเดเตอร์แล้วกว่า 10 พันล้านเหรียญฯ ส่วนอีก
ส่วนฝั่ง Execution Layer คือ เชนอีเธอเรียมที่ตอนนี้พวกเราใช้กันอยู่
The Merge คือการผนวก Consensus Layer ที่รัน PoS รวมกับ Execution Layer เข้าไว้ด้วยกันนั่นเอง
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ETH 2.0 ผ่านหูกันมาบ้าง ก่อนหน้านี้มีการเรียกชื่อ Execution Layer ว่า ETH 1.0 และเรียก Consensus Layer หรือ Beacon Chain ว่า ETH 2.0 แต่ปัจจุบันยกเลิกชื่อเรียกนี้ และคงไว้เพียง Execution Layer และ Consensus Layer เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสองเลเยอร์ก็ต้องมารวมกันอยู่ดี และ The Merge เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโร้ดแม้ปพัฒนาอีเธอเรียมที่ยาวไกลมากๆ
การใช้แนวคิดแบบโมดูล่าร์โดยแยก Consensus Layer ออกจาก Execution Layer ก็เพื่อให้คนทำงานสามารถแยกย้ายกันไปทำในส่วนต่างๆ ที่ตนเองสนใจและถนัดได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้อย่างละเอียดว่าส่วนอื่นๆ เขาทำงานกันไปถึงไหนแล้ว ทีมที่ทำงานฝั่ง Consensus Layer ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง MEV ส่วนทีมที่ทำฝั่ง Execution Layer ก็จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง PoS เช่นกัน
คุณทิมอธิบายว่าการพัฒนาแบบโมดูล่าร์เป็นวิธีการที่ใช้เพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์เมื่อมันเริ่มมีขนาดใหญ่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ภายในกูเกิ้ลเอง คนที่ทำในฝั่งของ Gmail ก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งฝั่ง Search Engine วิธีการนี้จะทำให้นักพัฒนาสามารถเข้ามาร่วมมือได้ง่ายมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายอีเธอเรียมทั้งหมด และสามารถกระโดดเข้าไปพัฒนาในส่วนที่ตนเองสนใจได้เลย วิธีการนี้ยังทำให้เกิดผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ และเกิดการถกเถียง การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในเรื่องเฉพาะทางได้อีกด้วย แทนที่จะต้องเป็นเป็ดที่ทำได้ทุกๆ เรื่อง นอกจากนี้แล้ว วิธีการนี้ยังทำให้การทำงานเร็วขึ้นมาก เพราะทุกๆ ทีมสามารถทำงานคู่ขนานได้เลย หมดปัญหาคอขวดที่บรรดานักพัฒนาต้องทยอยพัฒนากันไปทีละด้านๆ
ช่วงพฤกษาคม 2021
ฤดูใบไม้ร่วง 2021
ก่อนวันหยุดหน้าหนาวตอนคริสมาสต์ 2021
มีนาคม 2022
- มีการทดลองทำ Shadow Fork ซึ่งคือการ Merge แต่ทำบนโหนดจำนวนน้อยๆ บนทุกคอมโบเพื่อดูผลลัพธ์ โดยมีการทำ Shadow Fork ไปแล้วประมาณ 11 ครั้ง
Next Step
ด้านโพรโทคอล
ด้านคน
แน่นอนว่าในระบบกระจายศูนยเช่นนี้ การมีฉันทามติเพื่อทำอะไรเป็นเรื่องที่ใช้เวลา ยิ่งพอระบบนิเวศของอีเธอเรียมมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งต้องใช้เวลานานขึ้น ในบางครั้งถึงฝั่งนักพัฒนาจะตกลงกันแล้วแต่ถ้าคนอื่นๆ ในชุมชนไม่เห็นด้วย การอัพเกรดนั้นก็ทำไม่ได้เช่นกัน
อ่านโน้ตแบบ e-book ได้ที่นี่
หรืออ่านได้ที่นี่: